ชีวิตของหนู

          น้องปิยะธิดาเป็นบุตรของคุณแม่ดวงแก้ว ลักขษร ซึ่งคุณแม่เล่าว่าตอนจะคลอดน้องนั้นคุณแม่ไปคลอดที่โรงพยาบาลรัฐในจังหวัดสมุทรปราการ เนื่องจากน้ำคล่ำแตกตั้งแต่ตี 5 แต่มดลูกไม่เปิดทางโรงพยาบาลเลยยังไม่ได้ทำอะไร แต่คุณแม่ร้อนใจเลยให้คุณพ่อมาช่วยทำเรื่องขอย้ายออกจากโรงพยาบาลเพื่อไปคลอดที่โรงพยาบาลเอกชนอื่นใกล้เคียง คุณหมอได้ทำการผ่าตัดคลอดเมื่อช่วงบ่าย 3 โมงเย็น ซึ่งพอคลอดออกมาน้องไม่หายใจแล้ว คุณหมอต้องทำการปั้มหัวใจขึ้นมาและส่งตัวน้องมารักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลวชิระสมุทรปราการอยู่เกือบเดือนกว่าจะสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ ซึ่งค่าใช้จ่ายในการคลอดที่โรงพยาบาลเอกชนในครั้งนี้สูงถึง 70,000 บาท ทางคุณแม่ต้องทำเรื่องขอผ่อนจ่ายกับทางโรงพยาบาล

          พอน้องอายุได้ประมาณ 4 เดือน น้องไม่สบาย ป่วยบ่อยๆ ชอบสำลักนมจึงได้พาไปหาหมอ คุณหมอฟังเสียงหัวใจแล้วจึงได้ส่งไป X-ray  ผลออกมาว่าน้องปิยะธิดามีอาการหัวใจเต้นผิดปกติน่าจะเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด คุณหมอจึงได้แนะนำให้พาน้องมาตรวจรักษาที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ซึ่งจะมีหมอเฉพาะทางที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับโรคหัวใจเด็ก คุณแม่จึงได้ไปขอใบส่งตัวและทำเรื่องส่งตัวน้องเข้ามารับการรักษาตัวต่อที่สถาบันส่งเสริมสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีหรือโรงพยาบาลเด็ก 

          ซึ่งคุณหมอที่โรงพยาบาลเด็กได้นัดตรวจร่างกายทุก 3 เดือนบ้าง 6 เดือนบ้าง หลังจากนั้นก็ได้รับการส่งตัวมาผ่าตัดรักษาโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดที่โรงพยาบาลราชวิถี เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2564 โดยน้องต้องมานอนที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 15 มกราคมเพื่อเตรียมตัวและตรวจร่างกายก่อนผ่าตัด ซึ่งช่วงนี้อยู่ในสถานการณ์ช่วงโควิดจึงทำให้คุณแม่ไม่สามารถมาเฝ้าหรือมาเยี่ยมน้องได้บ่อยๆ  โดยน้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่ห้อง ICUประมาณ 1 สัปดาห์ก็สามารถย้ายมาพักที่หอผู้ป่วยปกติอีก 8 วันน้องจึงสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ รวมน้องอยู่โรงพยาบาลประมาณ 19 วัน  ซึ่งคุณแม่รู้สึกคิดถึงน้องเป็นอย่างมาก

            หลังผ่าตัด น้องมีอาการดีขึ้น เหนื่อยน้อยลง ทานนมได้มากขึ้น คุณแม่รู้สึกดีใจมากที่ลูกได้รับการผ่าตัด  น้องจะได้หายจากโรคร้ายสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนเด็กปกติคนอื่น จึงอยากขอบพระคุณมูลนิธิฯ และผู้บริจาคที่ช่วยเหลือค่าผ่าตัดของน้อง มา ณ.โอกาสนี้ด้วย