ชีวิตของหนู

น้องเกดเป็นเด็กหญิงตัวเล็กขายาว ผอมกะหร่องเหมือนเด็กขาดสารอาหาร คุณแม่หนูเปลี่ยนเล่าว่าตนเองมีอาชีพรับจ้างทั่วไปทำงานทุกอย่างแล้วแต่จะมีคนจ้าง  ลูกเกดเป็นลูกสาวคนเล็ก   ตนเองมีลูกทั้งหมด 4 คน พี่สาว 3  คนของน้องเกดพอได้งานทำที่กรุงเทพ ก็ไม่ได้มาส่งเสียเลี้ยงดูตนเองกับน้องเลย หลังคลอดได้ไม่นานตนเองก็เลิกกับสามีเพราะติดเหล้า ติดยา ทะเลาะทำร้ายร่างกายตนเองทุกวัน จนทนไม่ได้    ทั้งที่เลิกกับพ่อน้องเกดแต่แม่ยังต้องรับเลี้ยงดูย่าซึ่งแก่มากแล้ว ภายหลังแม่ได้ข่าวว่าพ่อเลิกเหล้า เลิกยาได้และออกบวช   ลูกเกดคลอดที่โรงพยาบาลกำแพงเพชร   หลังคลอดหมอตรวจพบเป็นโรคหัวใจ คุณแม่บอกว่า พอหมอบอกว่าลูกเป็นโรคหัวใจ   ตกใจมากไม่คิดว่าจะเกิดกับลูกของตนเพราะ  3  คนที่คลอดออกมาก็ปกติดีทุกอย่างและครอบครัวก็ไม่มีใครเป็นโรคหัวใจแต่คุณหมอบอกว่าเป็นแต่กำเนิด ต้องผ่าตัดถึงจะหาย  ลำพังรายได้วันๆ หนึ่งบางวันไม่ถึง 50 บาท จะเอาเงินที่ไหนมาเป็นค่าผ่าตัด หมอบอกว่าใช้สิทธิ์บัตรทองจะไม่เสียเงิน น้องเกดเป็นเด็กโตช้า ตัวเล็กเป็นหวัดบ่อย เหนื่อยง่าย เล่นได้นิดหน่อยก็เหนื่อยต้องหยุดพัก หมอได้ส่งตัวน้องลูกเกดมารับการรักษาที่โรงพยาบาลเด็ก   และเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลราชวิถี  เมื่อปี  2547 

            คุณแม่บอกว่าความใฝ่ฝันของน้องเกดคืออยากได้กระเป๋าสตางค์ เพราะเวลาไปโรงเรียนจะขอเงินแม่ 5 บาทแต่แม่ไม่มีให้ หลังผ่าตัดน้องเกดทานข้าวได้มาก ทำให้น้ำหนักขึ้นมา 3 กิโลกรัมสร้างความดีใจกับคุณแม่เป็นอย่างมาก หลังออกจากโรงพยาบาล  คุณหมอนัดน้องเกดมาตรวจ คุณแม่บอกว่าคงมาไม่ได้เพราะไม่มีค่ารถมูลนิธิเพื่อสนับสนุนการผ่าตัดหัวใจเด็กโดย นพ.พีระพัฒน์ มกรพงศ์ ได้ออกค่ารถให้ไปกลับเพราะเด็กจะได้มาตรวจตามนัด พร้อมกันนั้นพยาบาลที่เคยดูแลน้องเกดตอนผ่าตัดได้มอบกระเป๋าสตางค์สีชมพูสดใสให้น้อง 1 ใบ คุณพยาบาลบอกว่าเห็นรอยยิ้มแสดงความดีใจของน้องลูกเกดแล้วมีความรู้สึกว่าสิ่งของบางอย่างบางครั้งเราคิดว่าไม่มีค่าอะไรมากมาย แต่อาจจะมีค่าสำหรับคนคนนึง