ด.ญ.มอย นามแสง อายุ 14 ปี เป็นชาวไทยใหญ่ อยู่บ้านเลขที่ 169 หมู่ 11 บ้านสันทรายใหม่ ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย พ่อชื่อนายยอด แม่ชื่อนางจันทร์ น้องมอย เล่าว่าเรียนอยู่ชั้น ม.1/2 โรงเรียนบ้านสันทราย บ้านเดิมอยู่บนดอยแม่สลอง มีพี่น้อง 3 คน มีพี่สาวชื่อ แอ ส่วนพี่ชายอีกคนเสียชีวิตตั้งแต่น้องมอยจำความไม่ได้ พ่อและแม่มีเคยมีอาชีพปลูกสตอเบอรี่ขายช่วงหลังขาดทุนจึงได้เปลี่ยนมาทำงานรับจ้างทั่วไป ตอนอายุ 4 ปี เวลาเดินจะเหนื่อย หน้าซีด เล็บมือ เล็บเท้าเขียว เวลาพูดมากๆ จะหายใจไม่ออก จะหอบและหน้ามืด อากาศร้อนจะเป็นลมง่าย ยิ่งโตขึ้น ก็เป็นมากขึ้นเล่นกีฬากับเพื่อนไม่ได้ คุณครูจึงบอกให้พ่อจึงพาไปตรวจที่โรงพยาบาลแม่สาย หมอบอกว่าเป็นโรคผนังหัวใจรั่ว
จากนั้นโรงพยาบาลจึงส่งไปตรวจต่อที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ หมอบอกว่าเป็นโรคผนังกั้นหัวใจรั่วและรูรั่วนั้นใหญ่มากขึ้น ต้องผ่าตัดโดยเร็วเพราะถ้าทิ้งไว้จะเป็นอันตราย ทางโรงพยาบาลจะส่งไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง ประมาณ 100,000 กว่าบาท พอทราบน้องมอย
บอกว่าทั้งพ่อและตนเองพอฟังก็ตกใจ เพราะจะเอาเงินที่ไหนไปเสียค่าผ่าตัด ลำพังพ่อและแม่มีอาชีพรับจ้างทั่วไปแค่ส่งน้องมอยเรียนก็ลำบากมากแล้ว จึงจนปัญญาที่จะหาเงินไปผ่าตัดน้องมอย ไม่รู้จะปรึกษาใครและคิดว่าคงจะอยู่ได้ไม่นาน จึงได้ปรึกษาคุณครูประจำชั้นชื่อคุณครูดวงเดือน โดยที่คุณครูเป็นผู้ดำเนินการติดต่อมูลนิธิเพื่อสนับสนุนการผ่าตัดหัวใจเด็ก ทำให้น้องมอยพร้อมพี่สาวและพี่เขยได้เดินทางมาตรวจหัวใจอีกครั้งที่โรงพยาบาลราชวิถีและได้ส่งไปทำ Echo ที่โรงพยาบาลรามาธิบดีเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2552
ทางคุณหมอบอว่าเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดชนิดเขียวต้องผ่าตัด น้องมอยและพี่สาวจึงรออยู่ที่กรุงเทพฯเผื่อว่าทางโรงพยาบาลจะเรียกตัวผ่าตัดช่วงนี้จะได้ไม่ต้องเสียเงินค่าเดินทางหลายครั้ง
และในที่สุดวันที่ 1 กันยายน 2552 ทางมูลนิธิเพื่อสนับสนุนการผ่าตัดหัวใจเด็กก็ได้ติดต่อให้น้องมอยมาตรวจร่างกายและเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่นในวันที่ 3 กันยายน 2552
หลังผ่าตัดน้องมอยมีอาการดีขึ้นมาก ปาก เล็บมือ เล็บเท้าไม่เขียว พูดได้นานขึ้นโดยไม่เหนื่อย น้องมอยบอกว่าดีใจมากที่ได้รับการผ่าตัด อยากหายจะได้เล่นกีฬาและทำกิจกรรมอื่นๆ ที่โรงเรียนได้เหมือนเพื่อนๆ และขอขอบพระคุณมูลนิธิเพื่อสนับสนุนการผ่าตัดหัวใจเด็ก ขอบคุณคุณหมอพีระพัฒน์ คุณหมอมาลินีที่ได้ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดครั้งนี้ และขอบคุณที่ได้ให้ชีวิตใหม่สำหรับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ถึงแม้จะไม่ใช่สัญชาติไทย แต่น้องมอยว่าบอกว่าน้องมอยเป็นคนไทยทั้งตัวและหัวใจ จะตั้งใจเรียน เชื่อฟังคุณครูและจะเป็นเด็กดีต่อไปในอนาคต