น้องยิ้มมาก เป็นชาวมอญ ประเทศพม่า มีพี่น้อง 4 คน น้องยิ้มมากเป็นคนที่ 3 พ่อชื่อนายมอญ แม่ชื่อนางตาล มีอาชีพทำนา น้องยิ้มมากเล่าว่าตอนอายุ 12 ปี มีอาการเหนื่อย บวม เล็บมือ เล็บเท้าเขียว คุณแม่พาไปหาหมอ หมอบอกว่าเป็นโรคหัวใจรั่วต้องผ่าตัด โดยเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 500,000 บาท แต่แม่ไม่มีเงิน คุณหมอจึงให้ยามาทานและนัดตรวจ
ช่วงนั้นน้องยิ้มมากได้มาเยี่ยมคุณพ่อ ซึ่งมาทำงานโรงงานทาหารทะเลส่งออกที่จังหวัดสมุทรสาคร ประเทศไทย และเกิดมีอาการเหนื่อย หอบ คุณพ่อจึงพาไปตรวจที่คลินิกและรับยามาทาน คุณพ่ออยากให้ลูกรักษาเรื่องโรคหัวใจที่เมืองไทย จึงให้ลูกสมัครทำงานที่โรงงานตนเองทำอยู่ แต่น้องยิ้มมากอายุยังไม่ถึง 15 ปี จึงไม่สามารถทำงานที่ประเทศไทยได้ น้องยิ้มมากได้พบกับเพื่อนที่ได้เข้ามาเรียนหนังสือที่ประเทศไทย เพื่อนจึงพาน้องไปฝากกับคุณครูหมูเพื่อให้น้องได้เรียนหนังสือ ตอนนี้น้องเรียนอยู่ชั้น ป.3 โรงเรียนวัดศรีสุธาราม จ.สมุทรสาคร น้องบอกว่าช่วงแรกที่มาเรียนที่เมืองไทยลำบากมากเพราะฟังภาษาไทยไม่ออกแต่ตอนนี้น้องเรียนได้ดีขึ้น สอบได้ที่ 1 มาตลอด
วันหนึ่งน้องไปเรียนหนังสือแล้วมีอาการเหนื่อยมากจนเป็นลม คุณครูหมูจึงพาน้องไปรักษาที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร หมอตรวจ Echo บอกว่าน้องเป็นโรคหัวใจรั่ว บอกว่ายังไม่ต้องผ่าตัดให้ยามาทานและนัดตรวจติดตามอาการทุก 1 เดือน โดยค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้งคุณครูจะขอความอนุเคราะห์กับทางโรงพยาบาล ให้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
คุณครูหมูได้ติดต่อกับทางมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN) ซึ่งช่วยดูแลกับเกี่ยวสวัสดิการของแรงงานต่าวชาติที่ทำงานในเขตโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศไทย และทางมูลนิธิแอลพีเอ็นก็ได้ทราบข่าวโครงการการผ่าตัดหัวใจเด็กจากหนังสือพิมพ์ จึงได้ติดต่อมายังมูลนิธิเพื่อสนับสนุนการผ่าตัดหัวใจเด็ก และทางมูลนิธิฯ ก็ได้ติดต่อให้น้องมาตรวจ Echo ที่โรงพยาบาลราชวิถี และได้รับการผ่าตัดหัวใจเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2552 ที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น
หลังผ่าตัดน้องมีอาการดีขึ้นมาก เวลาพูดจะเหนื่อยน้อยลง น้องยิ้มมากบอกว่าขอขอบพระคุณมูลนิธิเพื่อสนับสนุนการผ่าตัดหัวใจเด็กที่ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการผ่าตัด เพราะลำพังตนเองและครอบครัวคงไม่มีปัญญาที่จะหาเงินมากขนาดนี้มาเสียค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดได้ ขอขอบคุณทางมูลนิธิฯ ผู้เปรียบเสมือนผู้ให้ชีวิตใหม่แก่น้องยิ้มมาก