ชีวิตของหนู

          น้องพัชรเดช ดาแก้ว อายุ 1 ปี 5 เดือน เป็นบุตรของคุณพ่อปัญญาวุฒิ ดาแก้วและคุณแม่ศรัณญา แสงเมือง เดิมคุณพ่อเป็นคนจังหวัดภูเก็ต ส่วนคุณแม่เป็นคนพังงา ตอนที่น้องคลอดที่โรงพยาบาลพังงาก็ออกมาปกติดี  แต่พอน้องป่วย มีอาการไข้ ไอและมีน้ำมูก คุณพ่อคุณแม่จึงได้พาน้องไปตรวจที่คลินิกใกล้บ้าน ซึ่งคุณหมอได้แจ้งว่าตอนฟังเสียงหัวใจของน้อง คุณหมอได้ยินเสียงผิดปกติเหมือนหัวใจรั่ว ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นการรั่วของหัวใจห้องบนหรือห้องล่างและเยอะมากแค่ไหน คุณหมอแนะนำให้ไปตรวจให้แน่ชัดที่โรงพยาบาลอีกครั้ง ซึ่งพอคุณพ่อคุณแม่ทราบก็รู้สึกเป็นกังวลอย่างมาก พอวันรุ่งขึ้นก็รีบพาน้องไปตรวจที่โรงพยาบาลพังงาที่น้องคลอดเลย โดยมีคุณหมอ 2-3 คนมาช่วยกันฟังและคุณหมอแจ้งว่าน้องน่าจะมีรูรั่วที่หัวใจห้องล่างซ้าย ซึ่งพอได้ฟังคุณพ่อคุณแม่ก็รู้สึกตกใจ วิตกกังวลมมากว่าจะทำอย่างไรดี แต่คุณหมอก็ให้คำแนะนำว่าไม่ต้องเป็นห่วง ปัจจุบันมีหมอเฉพาะทางเยอะ เดี๋ยวทางคุณหมอจะส่งตัวไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตให้ เนื่องจากทางโรงพยาบาลพังงาไม่มีคุณหมอเฉพาะทางด้านโรคหัวใจเด็กและไม่มีเครื่องมือและอุปกรณ์ในการตรวจรักษาโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดเพื่อตรวจให้แน่ชัดว่าน้องเป็นอะไรบ้าง

            คุณพ่อคุณแม่ได้พาน้องไปตรวจที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ทางคุณหมอได้ทำการตรวจ X-Ray และ Echo เพื่อดูให้แน่ใจว่าน้องมีรูรั่วที่หัวใจบริเวณไหนและมีขนาดเท่าไหร่ มีความผิดปกติอื่นๆ ร่วมด้วยหรือไม่ จากผลการตรวจนั้นคุณหมอแจ้งว่ารูรั่วในหัวใจของน้องค่อนข้างใหญ่ มีโอกาสที่จะปิดเองได้ค่อนข้างน้อย แต่ก็มีวิธีการรักษาคือการผ่าตัด พอคุณพ่อคุณแม่ทราบว่าน้องต้องทำการผ่าตัดก็ยิ่งกังวลมากขึ้นไปอีก ไหนจะห่วงน้อง กังวลเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งค่าผ่าตัด ค่าเดินทาง ค่ากินอยู่เพราะคุณพ่อคุณแม่มีลูก 3 คน พี่ 2 คนกำลังเรียนหนังสือ ซึ่งคุณพ่อทำงานเป็นเสาหลักอยู่เพียงคนเดียว ส่วนคุณแม่ไม่ได้ทำงานเพราะต้องดูแลลูกทั้ง 3 คน คุณหมอจึงบอกว่าจะช่วยติดต่อประสานงานติดต่อกับมูลนิธิเพื่อสนับสนุนการผ่าตัดหัวใจเด็กให้ แต่ต้องพาน้องไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลราชวิถี ที่กรุงเทพฯ นะ แต่ด้วยความที่คุณพ่อคุณแม่ยังกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ จึงยังไม่ได้ตกลงที่จะให้น้องทำการผ่าตัด คุณหมอจึงให้ยาและให้กลับไปพักรักษาตัวที่บ้านก่อนและนัดมาตรวจติดตามอาการ

            พอพาน้องไปหาหมอตามนัดครั้งที่ 2 คุณแม่จึงได้ตกลงที่จะให้น้องเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งคุณหมอได้ประสานงานส่งข้อมูลและอาการของน้องให้กับทางมูลนิธิฯ และให้คุณแม่รอการติดต่อกลับจากมูลนิธิฯ เพื่อแจ้งกำหนดการผ่าตัดอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งคุณแม่ก็เฝ้ารอมานาน จนประมาณ 6-7 เดือนทางมูลนิธิฯ ถึงได้ติดต่อเพื่อแจ้งคิวผ่าตัด ซึ่งน้องต้องมานอนที่โรงพยาบาลราชวิถีก่อน 2 วันเพื่อเตรียมตัวในการผ่าตัด วันที่ 3 ถึงจะได้เข้าผ่าตัด น้องใช้เวลาในห้องผ่าตัดประมาณ 3-4 ชั่วโมงก็ออกมาพักฟื้นอยู่ที่ ICU แค่ 2 คืน น้องก็สามารถย้ายมาอยู่หอผู้ป่วยศัลยกรรมหัวใจได้ ซึ่งรวมๆ น้องอยู่โรงพยาบาลประมาณ 1 สัปดาห์ก็สามารถกลับบ้านได้ ซึ่งคุณหมอแจ้งว่าผ่าตัดแล้วน้องก็จะหายเป็นปกติ สามารถวิ่งเล่นและเติบโตได้เหมือนเด็กคนอื่นๆ