น้องปิยะวรรณ์ สระบัว  อายุ 1.8 ปี เด็กน้อยหน้ามน ป่วยเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ชนิดตัวเขียวที่มีทั้งรูรั่วของผนังกั้นระหว่างห้องหัวใจห้องล่างและมีการตีบของเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงปอด (TOF) เป็นบุตรนายสุวรรณ และ นางฐานิตา สระบัว เกิดเมื่อวันที่  30 พฤศจิกายน 2553 มีพี่น้อง 4 คน น้องปิยะวรรณ์เป็นน้องคนเล็ก คุณแม่เล่าว่า น้องมีพี่ชายคนโต รูปร่างหน้าตาดีแต่ป่วยเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด มีความผิดปกติของหลอดเลือดใหญ่ที่ขั้วหัวใจรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลเด็กมีชีวิตอยู่ได้เพียง 14 วัน ก็เสียชีวิตเพราะติดเชื้อในกระแสเลือด หลังจากนั้น คุณแม่ก็ท้องลูกอีกแต่ต้องแท้งอีก 2 ครั้ง เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุตกบันได จนได้ตั้งท้องลูกคนต่อมา ชื่อ ด.ญ.สุภารัตน์ ปัจจุบันอายุ 4 ปี ลูกคนนี้เป็นปกติดี  จึงได้ตัดสินใจมีเพิ่มอีก 1 คน เป็นน้องผู้หญิงเช่นกัน ชื่อ ด.ญ.สาวิตรี อายุ 2.11 ปี ตรวจพบเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด เช่นเดียวกับพี่ชายคนโต ได้รับการผ่าตัดตั้งแต่อายุ 1 เดือน 8 วัน โดยได้คุณหมอพีระพัฒน์ เป็นผู้ผ่าตัดรักษาให้ น้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลราชวิถีนาน 2 เดือน จนกระทั่งน้องมีอาการดีขึ้น กลับไปพักฟื้นต่อที่บ้าน แต่คุณหมอได้บอกว่าน้องจะต้องผ่าตัดอีกรอบ เมื่อน้องโตขึ้น 

ต่อมาคุณแม่ก็ได้ตั้งท้องโดยไม่รู้ตัว พออายุครรภ์ได้ 4 เดือน ทราบจากคุณหมอที่โรงพยาบาลเด็กว่าลูกในท้องเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด โดยคุณหมอจะทำแท้งให้ แต่คุณแม่ได้ตัดสินใจเอาลูกไว้ และรอให้ลูกเกิดมาจนถึงทุกวันนี้  ก็คือน้องปิยะวรรณ์ น้องเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดชนิดตัวเขียว ( TOF ) ได้รับการผ่าตัดไปเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2555 ที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น หลังจากผ่าตัดแล้ว น้องมีอาการตัวเขียวลดน้อยลง และไม่เหนื่อยง่ายเหมือนเดิม แต่หมอบอกว่า หลังจากน้องมีน้ำหนักตัวได้ประมาณ 15 กิโลกรัม จะต้องทำผ่าตัดใหม่อีกครั้ง ทุกวันนี้คุณพ่อและคุณแม่ ต้องพาลูกทั้ง 2 คน ที่ป่วยมาโรงพยาบาลทุกเดือน สลับกันไป ทำให้มีความยากลำบากมากในเรื่องค่ารถ รวมทั้งค่ายาต่างๆ  แต่ก็ได้รับความอนุเคราะห์จากผู้บริจาคผ่านทางมูลนิธิฯ ให้การสนับสนุนทั้งเรื่องการผ่าตัด ค่ารักษาต่างๆ รวมทั้งค่าเดินทางในการพาลูกทั้ง 2 มาตรวจรักษาที่ทางโรงพยาบาล คุณพ่อและคุณแม่และน้องทั้ง 2 รู้สึกซาบซึ้งและต้องขอขอบพระคุณผู้บริจาคทุกท่านที่ให้ความเอื้อเฟื้อ ทำให้น้องๆ มีชีวิตและสุขภาพดีขึ้น ถึงแม้ว่าจะต้องลำบากพาลูกๆ มาตรวจตามที่หมอนัดก็ตาม เพราะอยากให้ลูกหายและใช้ชีวิตได้เหมือนเด็กปกติทั่วไป