ชีวิตของหนู

ด.ช วรพงศ์ ภู่จุฬา หรือน้องอันปัน เป็นบุตรคนแรกของคุณพ่อสมพรและคุณแม่ศิริรัตน์  ภู่จุฬา เป็นคนจังหวัดนครปฐม แรกคลอดน้องก็ปกติดีทุกอย่าง น้ำหนักตัว 2,400 กรัม คลอดด้วยวิธีผ่าคลอดเมื่อ 36 สัปดาห์เนื่องจากมีภาวะน้ำคร่ำแตกและมดลูกต่ำจึงต้องทำการผ่าตัดเพื่อคลอดก่อนกำหนด  เมื่อแรกเกิดน้องมีอาการปกติดีทุกอย่าง  เมื่อน้องอายุได้ประมาณ 2 เดือน น้องไม่สบายจึงได้พาไปหาคุณหมอที่โรงพยาบลที่น้องคลอด คุณหมอแจ้งว่าฟังเสียงหัวใจของน้องแล้วเหมือนน้องมีอาการหัวใจรั่ว แต่ได้ยินไม่ชัด แต่หลังจากนั้นน้องก็หายและมาอาการแข็งแรงดี คุณแม่จึงไม่ได้พาไปตรวจให้ละเอียด เนื่องจากตัวคุณแม่เองก็เคยมีประวัติเป็นโรคหัวใจรั่วเหมือนกัน แต่เป็นที่ผนังหัวใจรั่วและรูรั่วของคุณแม่ก็ปิดเองเมื่ออายุประมาณ 13 ปี ดังนั้นพอถึงคราวน้องอันปันคุณแม่จึงไม่ได้เอะใจเพราะน้องไม่มีอาการใดๆ ไม่มีตัวเขียว ไม่ชัก คุณแม่เลยคิดว่ามันจะไม่ร้ายแรงจึงไม่ได้พาไปตรวจเช็คที่ไหนอีก

พอน้องอันปันมีอายุได้ประมาณ 6 เดือนก็ไม่สบายอีก คุณแม่สังเกตเห็นว่าเวลาน้องไม่สบาย น้องจะมีอาการหอบ เหนื่อย หัวใจเต้นเร็ว หายใจไม่ออกจนในบางครั้งถึงกับอาเจียนก็มี และจะไม่สบายนาน หายช้ามาก ทานยาของโรงพยาบาลก็ยังไม่หาย  คุณพ่อและคุณแม่จึงพาน้องไปตรวจที่คลินิกใกล้บ้าน คุณหมอฟังเสียงหัวใจแล้วบอกว่าน้องอันปันมีอาการหัวใจรั่วค่อนข้างเยอะ จึงแนะนำให้พามาตรวจโดยละเอียด จากคำแนะนำของญาติคุณพ่อและคุณแม่น้องจึงตัดสินใจพาน้องมาตรวจรักษาที่สถาบันเด็กบรมราชชนนีหรือโรงพยาบาลเด็ก หลังการตรวจคุณหมอแจ้งว่าน้องเป็นโรคหัวใจรั่วจริงและได้นัดให้มาตรวจเอคโค่เพื่อตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง และหลังจากทำการเอคโค่ก็พบว่าน้องเป็นหัวใจรั่วที่ผนังกั้นหัวใจด้านล่างซ้าย-ขวา ขนาด 13 มม.และมีกล้ามเนื้องอกออกมาบังทางเดินเส้นเลือดที่จะไปเลี้ยงปอดที่หัวใจด้านบนซ้าย ทำให้หัวใจด้านขวาทำงานหนัก จึงส่งผลให้หัวใจโตและต้องทำการรักษาด้วยการผ่าตัดเท่านั้น  ซึ่งจะต้องรีบทำการผ่าตัดก่อนน้องอายุครบ 2 ขวบ หากเกินกว่านั้นจะมีโอกาสหายยากกว่าเดิม

ทางโรงพยาบาลเด็กได้สวนหัวใจและส่งตัวน้องมาผ่าตัดที่โรงพยาบาลราชวิถี และได้รับการผ่าตัดเพื่อปิดรูรั่วและตัดกล้ามเนื้องอกออกเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2557 การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดี น้องพักรักษาตัวในห้องไอซียูเป็นเวลา 10 วัน เนื่องจากภาวะความดันในปอดสูงและหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ คุณหมอได้ทำการรักษาและดูแลจนอาการน้องค่อยๆ ดีขึ้นจนออกจากห้องไอซียูและพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลอีก 5 วัน ใช้เวลาในการอยู่โรงพยาบาลทั้งหมด 15 วัน

หลังผ่าตัด น้องฟื้นตัวเร็วดีมาก ทานอาหารเก่งมากและน้ำหนักก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้น น้องสดใสร่าเริงและพัฒนาการดีขึ้นมาก แตกต่างกับที่ก่อนผ่านั้นน้องจะทานอาหารไม่ค่อยได้ น้ำหนักก็ขึ้นช้า และไม่สบายบ่อยสร้างความดีใจให้กับครอบครัวของน้องมากเพราะเหมือนได้หัวใจของพ่อและแม่กลับคืนมา

คุณแม่เล่าว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้รู้ว่า เมื่อลูกเรามีอาการผิดปกติอะไรก็ตาม เราควรจะพาไปตรวจให้ละเอียด มิฉะนั้นอาจจะทำการรักษาไม่ทันท่วงที กรณีของน้องอันปันโชคดีที่ถึงมือหมอเร็ว ไม่อย่างนั้นตนเองก็ไม่รู้เลยว่าลูกจะเป็นอย่างไรต่อไป ตอนแรกที่รู้ว่าน้องเป็นแบบนี้และต้องเข้ารับการผ่าตัด ตนเองทำใจไม่ได้และกลัวว่าน้องอันปันจะทนรับการผ่าตัดไม่ไหว ประกอบกับความเสี่ยงต่างๆ แต่สุดท้ายตนเองก็ตัดสินใจนำน้องเข้าผ่าตัดด้วยความมั่นใจในคุณหมอและทีมผ่าตัดทุกคนว่าจะต้องรักษาน้องให้หายได้ น้องจะต้องหายจากโรคหัวใจและเติบโตไปด้วยความสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ

ตอนนี้ผ่าตัดมาได้เกือบ 2 เดือนแล้ว น้องอันปันแข็งแรงมาก แผลที่หน้าอกก็หายแล้ว คุณหมอยังนัดไปตรวจดูอาการทุกเดือน คุณพ่อและคุณแม่ของน้องต้องขอขอบพระคุณผู้มีจิตเมตตาทุกท่านที่ได้บริจาคเงินเข้ามูลนิธิเพื่อสนับสนุนการผ่าตัดหัวใจเด็ก และทำให้น้องอันปันได้รับโอกาสที่ดีเช่นนี้ อีกทั้งต้องขอขอบพระคุณนายแพทย์พีระพัฒน์ มกรพงศ์ และทีมผ่าตัดทุกท่าน ที่ผ่าตัดน้องจนหาย รวมถึงแพทย์และพยาบาลทุกท่านที่ดูแลรักษาน้องเป็นอย่างดี ทำให้น้องมีสภาพร่างกายและจิตใจที่ดีมากๆ ค่ะ ตลอดเวลาที่อยู่โรงพยาบาลน้องมีความสุขมากจริงๆ ลูกมีความสุข คนเป็นพ่อและแม่ก็มีความสุขยิ่งกว่า