น้องเก้านักสู้ใจเกินร้อย

น้องเก้าเกิดมาก็ไม่สมบูรณ์เนื่องจากมีนิ้วเพียง 9 นิ้ว คือ มือขวามีเพียง 4 นิ้วและไม่มีกระดูกแขนส่วนตั้งแต่ข้อศอกลงมา คุณยายจึงเรียกน้องว่าน้องเก้า น้องเก้าอาศัยอยู่กับคุณยายเพียง 2 คน โดยคุณยายก็อายุมากแล้วทำอาชีพรับจ้างทั่วไป เช่น รับจ้างล้างจานในตลาดสด มีรายได้วันละประมาณ 100 บาท ได้รับเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุจากรัฐบาลอีกเดือนละ 500 บาทและน้องได้เงินช่วยเหลือคนพิการเดือนละ 500 บาท

คุณแม่ของน้องเก้าเลิกกับคุณพ่อตั้งแต่น้องเก้าอายุได้ 2 เดือน คุณแม่เลยพาน้องเก้ามาฝากไว้กับยาย ให้คุณยายเลี้ยงตั้งแต่อายุได้ 3 เดือน แล้วก็ไปทำงานที่ต่างจังหวัดโดยไม่ได้ติดต่อมาเลยประมาณ 2 ปีกว่า จนคุณแม่มีแฟนใหม่ก็ติดต่อกลับมาจะมาขอน้องเก้าไปเลี้ยง คุณยายซึ่งรักและผูกพันกันมานานจึงไม่ยอมให้และยอมลำบากเลี้ยงดูน้องเก้าเองต่อไป

น้องเก้าเกิดที่โรงพยาบาลพิษณุโลก แต่พออายุได้ 5 วันก็ต้องผ่าตัดเนื่องจากเป็นโรคทางเดินอาหารอุดตัน โดยถูกส่งตัวไปทำการผ่าตัดที่โรงพยาบาลนครสวรรค์ ต่อมาน้องเริ่มป่วย เป็นหวัดบ่อยๆ คุณยายจึงพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลพิษณุโลกอีกครั้ง คุณหมอตรวจพบว่าน้องเก้าเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด จึงทำให้ร่างกายไม่แข็งแรง ป่วยบ่อยมากๆ มีอาการเหนื่อย หอบ น้องเก้าจึงถูกส่งตัวต่อให้มารักษาที่โรงพยาบาลเด็กหรือสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี และรอคิวที่จะทำการผ่าตัดโรคหัวใจ โดยจะมีการติดตามอาการมาโดยตลอด ประมาณ 2-3 ปี แล้วจึงถูกส่งมารักษาที่มูลนิธิเพื่อสนับสนุนการผ่าตัดหัวใจเด็ก ทางมูลนิธิฯ จึงได้ให้น้องเก้าไปทำการผ่าตัดโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น กรุงเทพฯ ซึ่งค่ารักษาและค่ายาของน้องประมาณ 200,000 บาท หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากมูลนิธิฯ คุณยายก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี จะช่วยหลานอย่างไรดี  รู้สึกสงสารหลานมากเพราะเกิดมาก็พิการแล้ว ยังต้องมาเป็นโรคหัวใจอีก เหมือนโดยซ้ำเติม

แต่หลังการผ่าตัด น้องเก้าเริ่มมีสุขภาพที่แข็งแรงนี้ จนสามารถไปเรียนหนังสือได้เหมือนเด็กทั่วไป ซึ่งปัจจุบันน้องเก้าอายุ 7 ปี เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 2 (น้องเพิ่งจะสามารถเข้าโรงเรียนได้หลังจากทำการผ่าตัด) น้องเก้าเป็นเด็กเรียนดี เรียนได้เกรด 3 กว่าทุกเทอม และชอบวาดรูป ชอบงานศิลปะมาก ซึ่งคุณยายและน้องเก้ารู้สึกดีใจมากที่ได้รับความช่วยเหลือให้ได้รับการผ่าตัดในครั้งนี้ เพราะสามารถทำให้น้องเก้ากลับมาใช้ชีวิตได้เหมือนเด็กทั่วไป ถึงแม้จะไม่สมบูรณ์แบบ แต่น้องเก้าและคุณยายก็พร้อมจะสู้ต่อไปด้วยกำลังใจที่มีเกินร้อย