การดูแลสุขภาพปากและฟันในผู้ป่วยโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด
การดูแลสุขภาพฟันทั่วไปในเด็กโรคหัวใจ
ทางที่ดีที่สุดการดูแลสุขภาพฟันในเด็กโรคหัวใจ คือ การดูแลสุขภาพเหงือกและฟันตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อป้องกันไม่ให้มีฟันผุ อาจมีแนวทางปฏิบัติทั่วๆ ไป ดังนี้
- ในเด็กเล็กให้ทำความสะอาดฟันด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดฟันและเหงือก หลังจากดื่มนมหรือรับประทานอาหารทุกครั้ง ควรใช้แปรงสีฟันเล็กๆ แปรงฟันให้กับเด็ก เพื่อให้เด็กเกิดความคุ้นเคย อาจแตะยาสีฟันเด็กเพียงเล็กน้อยขนาดเท่าเม็ดถั่วเขียว แปรงฟันให้กับเด็กทุกซี่และทุกด้านอย่างทั่วถึง ใช้ผ้าสะอาดเช็ดฟองออกแล้วจึงเช็ดน้ำตาม เมื่อเด็กโตขึ้นก็ฝึกให้แปรงฟันวันละ 2 ครั้งด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์
- ควรสอนให้เด็กเล็กเริ่มใช้แก้วน้ำแทนขวดนมตั้งแต่อายุ 6-12 เดือน และเปลี่ยนจากขวดนม เป็นการใช้แก้วน้ำตอนอายุ 1 ปี
- ฝึกให้เด็กทารกเข้านอนโดยไม่มีนิสัยติดขวดนม อย่าให้เด็กเข้านอนขณะที่ยังดื่มนม น้ำผลไม้ หรือน้ำหวานจากขวดนม แต่ถ้าจำเป็นต้องให้เด็กทารกหลับพร้อมขวดนมให้เติมน้ำเปล่าแทน และไม่ควรให้เด็กเล็กเดินไปพร้อมถือขวดนมติดมือ
- ฝึกใช้ไหมขัดฟันทุกวันเพื่อกำจัดคราบแบคทีเรียตามซอกฟันและร่องเหงือก
- รับประทานอาหารให้ถูกสัดส่วน ควรรับประทานแป้งและน้ำตาลซึ่งจะสร้างกรดแบคทีเรียที่ทำให้เกิดฟันผุเป็นอาหารมื้อหลัก เนื่องจากน้ำลายที่ถูกผลิตออกมาในปริมาณมากช่วงมื้ออาหารจะช่วยขจัดคราบอาหารออกจากปากได้ ไม่ควรให้แป้งและน้ำตาลเป็นอาหารว่าง
- ให้ดื่มน้ำเปล่าที่มีปริมาณฟลูออไรด์เหมาะสม ในปัจจุบันไม่จำเป็นต้องให้ฟลูออไรด์รับประทานเสริมหากน้ำดื่มมีฟลูออไรด์สูงอยู่แล้ว
- ควรพาเด็กไปพบทันตแพทย์ก่อนที่ฟันน้ำนมจะขึ้นครบหรืออายุระหว่างอายุสองถึงสามปี เพื่อที่เด็กจะได้คุ้นเคยกับทันตแพทย์และผู้ปกครองจะได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีรักษาสุขภาพฟัน การรับประทานอาหาร และการใช้ฟลูออไรด์ ควรพาเด็กไปพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน
ขัอปฏิบัติก่อนการทำฟัน
- แจ้งแพทย์ที่ดูแลโรคหัวใจประจำให้ทราบถึงการทำฟันที่จะทำ ซึ่งแพทย์จะสรุปประวัติโรค การผ่าตัด ยาที่ใช้ และข้อปฏิบัติและข้อควรระวังให้ผู้ป่วยและทันตแพทย์ทราบ
- หากมียาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ต้องหยุดล่วงหน้าก่อนทำฟัน ยาที่พบบ่อยได้แก่
- ยาวาฟาริน (Warfarin) หรือ Coumadin ให้หยุดยาก่อนทำฟัน 3-5 วัน ถ้าทำหัตถการที่คาดว่าจะมีเลือดออกมากหรือค่า INR เดิมสูงมาก ให้เจาะดูค่า INR ก่อนทำหัตถการ ถ้า INR น้อยกว่า 1.5 สามารถทำฟันได้ ถ้าค่ามากกว่า 1.5 ควรเลื่อนหัตถการออกไป
- ยาต้านเกร็ดเลือดแอสไพริน (Aspirin) แนะนำให้หยุดยาก่อนทำหัตถการ 7 วัน
- ยาต้านเกร็ดเลือดพลาวิส (Plavix) แนะนำให้หยุดยาก่อนทำหัตถการ 5 วัน
- กินยาปฏิชีวนะก่อนทำฟันประมาณ 1 ชั่วโมง
- หลังทำฟันและเลือดหยุดดีแล้ว ให้เริ่มยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดได้ตามขนาดเดิม
การให้ยาปฏิชีวนะก่อนการทำฟัน
ผู้ป่วยโรคหัวใจแต่กำเนิดมีความเสี่ยงต่อการเกิดการติดเชื้อที่ลิ้นหัวใจได้ในระหว่างการทำฟันดังนั้นจึงจำเป็นต้องพิจารณาให้ยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อก่อนจะทำฟันในช่องปากโดยเฉพาะการทำฟันที่ทำให้มีเลือดออก เช่น การถอนฟัน การอุดฟัน การรักษารากฟัน
ผู้ป่วยกลุ่มต่อไปนี้ถือเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อจากการทำฟัน ซึ่งต้องได้รับยาปฏิชีวนะก่อนทำฟันทุกครั้ง ได้แก่
- ผู้ป่วยโรคหัวใจที่ได้รับผ่าตัดโดยมีการใส่ลิ้นหัวใจเทียมหรือวัสดุอื่นที่ลิ้นหัวใจ
- ผู้ป่วยที่เคยมีประวัติมีการติดเชื้อที่ลิ้นหัวใจ
- ผู้ป่วยโรคหัวใจแต่กำเนิดชนิดเขียวที่ยังไม่ได้รับการผ่าตัด หรือได้รับการผ่าตัดแล้วแต่ยังมีรอยโรคเหลืออยู่
- ผู้ป่วยโรคหัวใจแต่กำเนิดชนิดซับซ้อน
- ผู้ป่วยที่ได้รับการแก้ไขความผิดปกติโดยการผ่าตัดหรือสวนหัวใจ โดยมีวัสดุสังเคราะห์อยู่ในหัวใจ ในช่วง 6 เดือนแรกหลังผ่าตัด
- ผู้ป่วยที่ได้รับการแก้ไขความผิดปกติโดยการผ่าตัดหรือสวนหัวใจ โดยมีวัสดุสังเคราะห์อยู่ในหัวใจและยังเหลือรอยโรคอยู่
ทั้งนี้ก่อนทำฟันควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวว่า จำเป็นต้องได้รับยาก่อนทำฟันหรือไม่ และควรมีบัตรประจำตัวเพื่อแจ้งให้ทันตแพทย์ทราบชนิดของโรคหัวใจ การผ่าตัดที่ได้รับ และข้อปฏิบัติก่อนการทำฟันทุกครั้ง
ยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อที่ใช้เพื่อป้องกันการติดเชื้อก่อนทำหัตถการในช่องปาก
ยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อที่ใช้เพื่อป้องกันการติดเชื้อก่อนทำหัตถการในช่องปาก ส่วนใหญ่จะให้ยาแอมมอคซีซิลิน (Amoxycillin) หากแพ้ยาเพนนิซิลลิน (Penicillin) ก็จะพิจารณาใช้ยาอื่นแทน ดังตาราง
การให้ยา |
ยาที่ใช้ |
ให้ยาครั้งเดียวก่อนทำฟัน 30-60 นาที |
|
ผู้ใหญ่ |
เด็ก |
||
ยารับประทาน |
Amoxycillin |
2 กรัม |
50 มก./กก. |
ยารับประทาน (กรณีแพ้ยากลุ่ม Penicillin) |
หรือ Cephalexin |
2 กรัม |
50 มก./กก. |
หรือ Clindamycin |
600 มก. |
20 มก./กก. |
|
หรือ Azithromycin หรือ Clarithromycin |
500 มก. |
15 มก./กก. |
|
ยาฉีด |
Ampicillin |
2 กรัม |
50 มก./กก. |
หรือ Cefazolin หรือ Ceftriaxone |
1 กรัม |
50 มก./กก. |
|
ยาฉีด (กรณีแพ้ยากลุ่ม Penicillin) |
Cefazolin หรือ Ceftriaxone |
1 กรัม |
50 มก./กก. |
หรือ Clindamycin |
600 มก. |
20 มก./กก. |